วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561

การเรียนการสอนครั้งที่ 10

วันอังคาร ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

แนวทางการจัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
   ความหมายของสิ่งแวดล้อม
1. สิ่งแวดล้อมภายในตัวบุคคล (implicit environment)  ได้แก่ การทำงานของระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย ระบบต่อมไร้ท่อ เป็นต้น
2. สิ่งแวดล้อมภายนอก (explicit environment) ได้แก่ สิ่งแวดล้อมที่อยู่ภายนอกกายของมนุษย์ เช่น วัตถุสิ่งของ คน พืช สัตว์ กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดจากคนและสัตว์ รวมไปถึงสิ่งที่เป็นนามธรรม (abstract) ได้แก่ ศีลธรรมจรรยา ขนบธรรมเนียมประเพณีในสังคมด้วย
ความสำคัญของสิ่งแวดล้อม
   สิ่งแวดล้อมมีความหมายและความสำคัญต่อเด็กเล็ก คือ เด็กได้รับการฝึกอบรมให้รู้จักบทบาทต่างๆ ในสังคม ทั้งในวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ไปพร้อมๆ กัน กระบวนการของการอบรมให้คนเป็นสมาชิกของสังคมนั้น จะขึ้นอยู่กับเจตคติ ความคาดหวัง และค่านิยมของสังคมที่คนๆนั้นเกี่ยวข้องด้วย 
ปัจจัยของสิ่งแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการของเด็กปฐมวัยมีดังนี้
1. ประสบการณ์ที่เด็กได้รับจากการตอบสนองความต้องการพื้นฐาน
2. ประสบการณ์ที่ได้จากการสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว
3. ประสบการณ์ที่เด็กได้รับจากสัมพันธภาพทางสังคม
4. ประสบการณ์ที่ได้รับความสะเทือนใจมาตั้งแต่วัยเด็ก
การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมในเด็กปฐมวัย
ความหมายของคำว่า จริยธรรมไว้ในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้
“จริยธรรม คือ หลักแห่งการประพฤติ ปฏิบัติที่ดี ที่เหมาะที่ควร”
“จริยธรรม คือ หลักคำสอนที่ว่าด้วยแนวทางการประพฤติที่เป็นหลักการและเป็นที่ยอมรับนับถือ”
ทฤษฎีจริยธรรมตามแนวคิดการให้เหตุผลเชิงจริยธรรม
โคลเบอร์ก 
   เป็นนักจิตวิทยาที่อธิบายถึงจริยธรรมของคนที่พัฒนาขึ้นไปพร้อม ๆ กับความสามารถในการคิดเชิง
เหตุผล โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ ระดับก่อนกฎเกณฑ์ ระดับกฎเกณฑ์สังคม และระดับเลยกฎเกณฑ์
ของสังคม สำหรับเด็กปฐมวัย จะอยู่ในขั้นแรกของทฤษฎีคือ ระดับก่อนกฎเกณฑ์ เด็กวัยนี้จึงตัดสินความ
ถูกผิดจากความรู้สึกของตนเอง และตามกฎเกณฑ์ที่ ผู้อื่นกำหนดโดยแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนดังนี้
    ขั้นตอนที่ 1 การหลีกเลี่ยงการลงโทษและการทำตามคำสั่ง เด็กวัยนี้จะประพฤติตนตามกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพราะหลีกเลี่ยงการลงโทษความถูก ผิด ตัดสินโดยพิจารณาผล ถ้าถูกลงโทษถือว่าทำไม่ดีเด็กวัยนี้จึงยังไม่มีเหตุผลในการตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ นอกจากปฏิบัติตามคำสอนของผู้ใหญ่
  ขั้นตอนที่ 2 การปฏิบัติเพื่อมุ่งหวังรางวัลส่วนตัว เด็กจะนำความต้องการของตนมากำหนดสิ่งที่ถูกและผิด ถ้าหากปฏิบัติสิ่งใดแล้วได้รางวัลก็จะยึดถือว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้นการชมเชยและให้รางวัลเมื่อเด็กทำในสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสม จึงเป็นวิธีสอนจริยธรรม ความประพฤติให้กับเด็ก เนื่องจากเด็กยังไม่สามารถตัดสินสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยเหตุผลของตนเอง

สกินเนอร์ (Skinner) 
   นักจิตวิทยากลุ่มพฤติกรรมนิยม เป็นผู้เสนอทฤษฎีที่มีความเชื่อว่าพฤติกรรมของคนเกิดจากการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ผลจากการแสดงพฤติกรรมนั้นจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าพฤติกรรมนั้นจะมีแนวโน้มเกิดขึ้นอีกหรือไม่ในสถานการณ์ที่คล้ายกับสถานการณ์เดิม ถ้าเกิดขึ้นอีกจะเรียกผลพฤติกรรมนั้นว่า การเสริมแรงทางบวก แต่ถ้าไม่เกิดขึ้นอีกเรียกผลของพฤติกรรมนั้นว่า การลงโทษ การอธิบายถึงการเรียนรู้ด้านจริยธรรมผ่านกระบวนการเสริมแรงและการลงโทษ หากเด็กแสดงพฤติกรรมที่ดีแล้วได้รับการชมเชย ยกย่อง คือ เด็กจะแสดงพฤติกรรมนั้นซ้ำอีก แต่หากแสดงพฤติกรรมใดแล้วถูกลงโทษ เด็กจะระงับหรือหยุดการกระทำนั้น ๆ ดังนั้นการเรียนรู้พฤติกรรมจริยธรรมของเด็กจึงขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ที่จะตัดสินว่า พฤติกรรมใดเป็นพฤติกรรมทางจริยธรรมที่เหมาะสม แล้วนำมาใช้ในการอบรมปลูกฝังเด็ก
แบนดูรา (Bandura) 
   นักจิตวิทยาสังคม อธิบายว่า พฤติกรรมส่วนใหญ่ของคนในสังคมเกิดจากการเรียนรู้ โดยการสังเกตจากตัวแบบ ทั้งตัวแบบในชีวิตจริง หรือตัวแบบที่เป็นสัญลักษณ์ ทั้งนี้ตัวแบบจะทำหน้าที่ทั้งสร้างหรือพัฒนาพฤติกรรมจริยธรรม และจะทำหน้าที่ในการระงับ พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เด็กปฐมวัยจึงเรียนรู้พฤติกรรมจริยธรรมจากตัวแบบ ผู้ใหญ่และสังคมจึงเป็นตัวแบบที่เด็กดูสังเกตและลอกแบบ การสอนจริยธรรมในแนวคิดนี้คือ การสร้างและเลือกตัวแบบที่ดีให้เด็กได้สังเกต สำหรับกระบวนการในการพัฒนาการเรียนรู้พฤติกรรมจริยธรรมตามแนวคิดนี้มี  4 ขั้นตอนคือ
ขั้นตอนที่ 1 กระบวนการตั้งใจ เป็นการที่เด็กได้เห็นตัวแบบที่น่าสนใจ ดังนั้นตัวแบบจึงต้องแสดงพฤติกรรมจริยธรรมที่ชัดเจน     ไม่ซับซ้อน และเมื่อเด็กสนใจแสดงพฤติกรรมที่ดีจะต้องมีการเสริมแรง เพื่อให้เด็กเกิดพฤติกรรมซ้ำ
ขั้นตอนที่ 2 กระบวนการเก็บจำ เมื่อเด็กสังเกตเห็นตัวแบบแสดงพฤติกรรมที่ดี และได้รับการยกย่องชมเชย และได้เห็นตัวแบบแสดงพฤติกรรมบ่อย ๆ เด็กเกิดความสนใจต้องการแสดงพฤติกรรมเช่นเดียวกับตัวแบบ เด็กจะหาวิธีเก็บและจดจำข้อมูลการแสดงพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับสถานการณ์
ขั้นตอนที่ 3 กระบวนการกระทำ เมื่อเด็กจดจำข้อมูลได้และเก็บไว้ในความคิดเมื่อเผชิญสถานการณ์ เด็กจะนำข้อมูลมาแสดงเป็นพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกับพฤติกรรมของตัวแบบ เพื่อให้ได้ผลเหมือนตัวแบบ
ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการจูงใจ เมื่อเด็กสังเกตตัวแบบและจดจำข้อมูลไว้ และเมื่อเผชิญสถานการณ์ ถ้าหากมีการจูงใจและเด็กคาดว่าจะได้รับการเสริมแรง เด็กจะแสดงพฤติกรรมออกมา ดังนั้นถ้าหากเด็กแสดงพฤติกรรมดี จึงควรได้รับผลในลักษณะการเสริมแรงเหมือนตัวแบบได้รับ การจูงใจจึงเป็นสิ่งสนับสนุนให้เด็กแสดงพฤติกรรมจริยธรรม

ประเมินอาจารย์        อาจารย์สอนสนุกเข้าใจง่าย

ประเมินเพื่อน            เพื่อนตั้งใจเรียน มาตรงเวลา

ประเมินตนเอง          ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน มาเรียนตรงเวลา

💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙


การเรียนการสอนครั้งที่ 9

วันอังคาร ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2561

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

วันนี้มีการสอบเก็บคะแนน
1.เรื่องพัฒนาการของเด็กแรกเกิดถึง 6 ปี
2.เรื่องพฤติกรรมของเด็กปฐมวัย
3.เรื่องการอบรมเลี้ยงดู
4.เรื่องส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัยทั้ง 4 ด้าน
4 ข้อ 20 คะแนน 
เวลาทำข้อสอบ 2 ชั่วโมง
12.00-14.00 น.

💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙

การเรียนการสอนครั้งที่ 8

วันอังคาร ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2561

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

   การนำเสนองาน เรื่องรูปแบบการอบรมเลี้ยงดู ได้แก่ การอบรมเลี้ยงดูแบบความรักความอบอุ่นแบบประชาธิปไตย การอบรมเลี้ยงดูแบบคาดหวังเอากับเด็ก การอบรมเลี้ยงดูแบบปล่อยปะละเลย การอบรมเลี้ยงดูแบบถนอมมากเกินไป




  มีทั้งแบบเปิดคลิปบทบาทสมมุติให้เพื่อนๆนักศึกษาดูในห้องเรียนและแสดงบทบาทสมมุติในห้องเรียน
ท้ายคาบการเรียนการสอนในสัปดาห์นี้ อาจารย์ได้บอกแนวข้อสอบข้อเขียน 4 ข้อ 20 คะแนน พร้อมทั้งนัดวันเวลาให้นักศึกษาได้เตรียมตัว นั้นก็คือการสอบในสัปดาหืหน้า เวลา 12.00 - 14.00น.
ประเมินตนเอง ตั้งใจฟังแนวข้อสอบ และชมการแสดงบทบาทสมมุติของเพื่อนๆ

ประเมินเพื่อน เพื่อนๆสนใจกับการแสดงบทบาทสมมุตินมาก 

ประเมินอาจารย์ อาจารย์ให้ความสนใจกับบทบาทสมมุติ

💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙

การเรียนการสอนครั้งที่ 7

วันอังคาร ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

เข้าสู่เนื้อหาการเรียนการสอนในวันนี้ คือ บทที่ 5 การอบนมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย


  การอบรมเลี้ยงดูเด็ก หมายถึง การที่พ่อแม่หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงดูเด็ก ปฎิบัติกับเด็กที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ให้เจริญเติบโตและมีพัฒนาการครบทั้ง 5 ด้าน ผู้อบรมต้องอบรมด้วยความรัก ความเข้าใจ และปรับวิธีการเลี้ยงดูให้เหมาะกับสภาพสังคม เพื่อให้เด็กเติบโตไปเป็นคนดี สามารถเผชิญกับสภาพการณ์ของสังคมและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

  ความสำคัญของพ่อแม่ในการอบรมเลี้ยงดู คุณภาพปละประสิทธิภาพของมนุษย์ขึ้นอยู่กับแต่ละคนตามวัยต่างๆ โดยเฉพาะวัยทำงานที่จะมีคุณภาพและประสิทธิภาพแค่ไหนขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ ฝึกฝน และประสบการณืที่ต่อเนื่องกันตั้งแต่แรกเกิดจนถึงปัจจุบัน การเรียนรู้ครั้งแรกของมนุษย์ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ถือว่าพ่อแม่นั้นคือ คุณครูคนแรก ♥
  บทบาทและหน้าที่ของพ่อแม่ในการอบรมเลี้ยงดู  
  • มีเจตคติที่ดีต่อเด็ก
  • สนองความต้องการของเด็กในทุกๆด้าน
  • ถ่ายทอดวัฒนธรรมประเพณีให้กับเด็ก
  • ปลูกฝังเจตคติที่ดีต่อบุคคลและสิ่งต่างๆส่งเสริมความสนใจของเด็ก
  • ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสติปัญญา
  • สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับเด็ก
  • ทำตัวเป็นครูของลูก
  • การให้แรงเสริมและการลงโทษ

  บทบาทและหน้าที่ที่ไม่เหมาะสมของพ่อแม่ในการอบรมเลี้ยงดู
  • การตี
  • การขู่
  • การให้สินบน
  • การเยาะเย้ย
  • การทำโทษที่รุนแรงเกินไป
  • การล้อเลียน
  • การคาดโทษ
  • การกระทำที่ทำให้ได้รับความเจ็บปวด
  • การทำให้ได้รับความอับอาย
  • การเปรียบเทียบกับเด็กที่เล็กกว่า
  • การโต้ถียง ขัดแย้ง
  • การเข้มงวดเกินไป
  • การปล่อยปะละเลย

  การดูแลเด็กวัยทารก นับตั้งแต่ออกจากครรภ์ - 2ปี เป็นวัยที่สำคัญที่สุดในการวางรากฐานสำคัญต่างๆทุกด้าน เป็นระยะที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด พ่อแม่ควรใช้ระยะเวลานี้ในการส่งเสริมให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยตอบสนองความต้องการจำเป็นต่างๆ เพื่อให้ทารกมีพัฒนาการที่ดีครบทั้ง 5 ด้าน
 การดูแลสุขภาพ
  • การอาบน้ำ
  • การสระผม
  • การเปลี่ยนผ้าอ้อม
  • เสื้อผ้าที่สวมใส่ ควรสะอาด
  • ปากและฟัน
 การดูแลด้านโภชนาการ ความต้องการทางด้านอาหารของทารก มีดังนี้
  • โปรตีน
  • พลังงาน
  • วิตามิน
  • เกลือแร่ เช่น เหล็ก ไอโอดีน แคลเซียม สังกะสี


 การเลี้ยงทารกด้วยนมแม่ นมแม่เป็นอาหารที่เหมาะที่สุดกับวัยนี้ เพื่อการเจริญเติบโตและสร้างภูมิต้านทานโรค ด้วยเหตุผลต่างๆ ดังนี้
คุณค่าทางโภชนาการของนมแม่ นมแม่แบ่งเป็น 2 ระยะ
  • น้ำนมเหลือง ออกมา 2-4 วันแรก จะหลังภายใน 12-24 ชั่วโมงหลังคลอด
  • น้ำนมแม่ หลังคลอด 2-4 วัน

  การอบรมเลี้ยงดูเด็กวัยก่อนเรียน หรือวัยเด็กตอนต้น อายุ 2-5 ปี เป็นช่วงที่สำคัญที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิต เพราะ เป็นวัยทองของการวางรากฐานบุคลิกภาพของมนุษย์ เป็นระยะที่เกิดการเรียนรู้มากที่สุด เด็กจะเป็นคนอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับวัยนี้

  การสร้างระเบียบวินัย 
หลังของระเบียบวินัย มีหลักสำคัญ 4 ประการ ได้แก่
  • เด็กต้องประพฤติในสิ่งที่ดี และขจัดพฤติกรรมที่ไม่พึงปรารถนา
  • เด็กต้องสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจกับการกระทำดีและไม่พึงพอใจกับการกระทำที่ไม่ดี และหลีกเลี่ยงการกระทำนั้น
  • เด็กต้องการทำความดีจนกระทั่งเกิดความเคยชินหรือเกิดเป็นนิสัยโดยไม่ต้องมีใครแนะนำ
  • เด็กต้องเรียนรู้ถึงการเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่พึงปรารถนาเป็น พฤติกรรมที่ดีที่พึงปรารถนาของสังคม
การฝึกวินัย นักจิตวิทยาได้แยกการฝึกวินัยออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
  • ใช้ความรักเป็นตัวนำ
  • ใช้วัตถุเป็นตัวนำ
  • การวางกฎเกณฑ์
การช่วยให้เด็กรู้จักบังคับตน
  • สร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูก
  • ให้อิสรภาพแก่เด็ก
  • ไม่มอบความรับผิดชอบแก่เด็กจนเกินกำลัง
  • ช่วยให้เด็กเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่เด็กสนใจ
  • มีความนับถือตัวเด็ก
  • ยกย่องชมเชยเด็กในโอกาสอันควร
  • อธิบายเหตุผลต่างๆ ให้เด็กก่อนที่จะให้ทำตาม
  • มีความคงเส้นคงวา
การปฎิบัติตนของพ่อแม่ในการฝึกวินัย

  • สร้างความศรัทธาให้แก่ลูกเสียก่อน
  • จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดี
  • ใช้อำนาจแบบอ่อนโยน
  • ไม่ใช้อำนาจอย่างไร้เหตุผล
  • ออกคำสั่งในรูปการชักชวน
  • ไม่ควรขัดแย้งกันเองให้ลูกเห็น
  • ต้องตัดสินปัญหาร่วมกันได้
  • ไม่ควรให้เด็กทำอะไรเมื่อเขาไม่พร้อม
  • ควรส่งเสริมให้รู้จักตัดสินในความคิด เมื่อลูกเริ่มรู้จักคิด
  • ให้เด็กได้เล่นกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน
  • เพิ่มความเชื่อมั่นในตัวเองให้กับลูก


ประเมินตนเอง ตั้งใจฟังที่เพื่อนนักศึกษานำเสนอบทความ 

ประเมินเพื่อน เพื่อนๆเตรียมความพร้อมก่อนนำเสนอบทความ 

ประเมินอาจารย์ อาจารย์ให้คำแนะนำในการนำเสนออย่างไรให้น่าฟัง ดูเป็นธรรมชาติ


💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙

วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561

การเรียนการสอนครั้งที่ 6

วันอังคาร ที่ 13 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

  วันนี้ก็เป็นการนำเสนองานต่ออาทิคน์ที่ผ่านมา สำหรับนักศึกษาที่ยังไม่ได้นำเสนอทั้งงานกลุ่มและเดียว



ประเมินตนเอง ตั้งใจฟังที่เพื่อนนักศึกษานำเสนอบทความ 

ประเมินเพื่อน เพื่อนๆเตรียมความพร้อมก่อนนำเสนอบทความ 

ประเมินอาจารย์ อาจารย์ให้คำแนะนำในการนำเสนออย่างไรให้น่าฟัง ดูเป็นธรรมชาติ


💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙

การเรียนการสอนครั้งที่ 5

วันอังคาร ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

   วันนี้เป็นวันของการนำเสนองานต่างๆ ทั้งงานกลุ่มและงานเดี่ยว เพื่อนๆหลายคนออกมานำเสนองานเดี่ยวของตัวเองด้วยบทความที่น่าสนใจกันทั้งหมด ส่วนงานกลุ่ม เพื่อนก็ๆสามารถหาความต้องการของเด็กปฐมวัยได้อยากหลากหลาย



ประเมินตนเอง ตั้งใจฟังที่เพื่อนนักศึกษานำเสนอบทความ 

ประเมินเพื่อน เพื่อนๆเตรียมความพร้อมก่อนนำเสนอบทความ 

ประเมินอาจารย์ อาจารย์ให้คำแนะนำในการนำเสนออย่างไรให้น่าฟัง ดูเป็นธรรมชาติ



💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙